“แชมป์เก่า” ราฟาเอล นาดาล แล้วก็ โนวัค ยอโควิช เจองานไม่หนัก ในการประเดิม สนามรอบแรก ศึกเทนนิส ออสเตรเลียน โอเพ่น 2023 แกรนด์สแลมแรกขอปี ที่ประเทศออสเตรเลีย
ฝ่ายจัดการแข่งขัน เทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น แกรนด์สแลม แรกของปี ที่ประเทศออสเตรเลีย ได้ทำการจับสลาก ประกบคู่ประจำปี 2023 ปรากฎว่า ในประเภทชายเดี่ยว รอบแรก ราฟาเอล นาดาล มือวางอันดับ 1 ของรายการ และก็แชมป์เก่ารายการนี้จากสเปน เจองานไม่หนัก เมื่อจะประเดิมสนามพบกับ แจ็ค เดรเปอร์ มือ 40 ของโลก
จากสหราชอาณาจักร ขณะที่ โนวัค ยอโควิช มือ 4 ของรายการจากเซอร์เบีย จะเจอกับ โรเบร์โต้ การ์บาเยส บาเอน่า มือ 75 ของโลกจากสเปน ส่วน แคสเปอร์ รุด มือ 2 ของรายการ จะพบกับ โทมัส มาชาค มือ 115 ของโลกจากสาธารณรัฐเช็ก
ด้านประเภทหญิงเดี่ยว อิก้า สเวียเท็ก มือ 1 ของโลกจากประเทศโปแลนด์ เจองานไม่หนักเช่นกัน เมื่อจะประเดิมสนามเจอกับ ยูล นีไมเยอร์ มือ 68 ของโลกจากเยอรมนี ขณะที่ ออนส์ จาเบอร์ มือ 2 ของโลกจากตูนิเซีย พบกับ ทามาร่า ซิดานเช็ก มือ 88 ของโลกจาก สโลวีเนีย ด้าน ดาเนียลล์ คอลลินส์
รองแชมป์เก่า เมื่อครั้งที่แล้วจากสหรัฐฯ เจอกับ แอนนา คาลินสกาย่า มือ 64 ของโลกจากรัสเซียโนวัค ยอโควิช คว้าแชมป์รายการที่ 92 ในอาชีพ หลังจากชนะ ในศึกเทนนิส แอดิเลด อินเตอร์เนชันแนล 1
เทนนิสเอทีพี ทัวร์ 250 รายการแอดิเลด อินเตอร์เนชั่นแนล (1) รายการอุ่นเครื่องก่อนเข้าศึก ออสเตรเลียน โอเพ่น 2023 ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ โนวัค ยอโควิช อดีตมือ 1 ของโลก ที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 5 โลก และผู้ครอบครองแชมป์ 21 แกรนด์สแลม เจอกับ เซบาสเตียน คอร์ด้า มืออันดับ 33 ของโลกจากสหรัฐ ปรากฏว่า ยอโควิช มือ 5 ของโลก เป็นฝ่ายชนะไป 2-1 เซต สกอร์ 6-7 (8-10), 7-6 (7-3), 6-4 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ และถือเป็นแชมป์ในทัวร์รายการที่ 92 ในอาชีพ พร้อมรับเงินรางวัล ประมาณ 3.2 ล้านบาท
นอกจากนั้นยังเป็น การเรียกความมั่นใจก่อน ฝ่าออสเตรเลียน โอเพ่น ในอาทิตย์หน้า ที่ยอโควิช เป็นแชมป์มากสุด 9 สมัย หลังจากปีที่แล้ว ไม่ได้ลงเล่นและถูกขับออกนอกประเทศ เนื่องจากไม่ยอมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
‘นาดาล’ ลั่นร่างกายฟิตปั๋ง พร้อมป้องกันแชมป์ ออสซี่ โอเพ่น
ราฟาเอล นาดาล นักตีเทนนิสมือ 2 ของโลกชาวสเปน เปิดเปิดเผยว่า ในรายการ อุ่นเครื่องที่ประเทศออสเตรเลีย 2 รายการก่อนศึกแกรนด์สแลม “ออสเตรเลียน โอเพ่น” ที่จะเริ่มตันในวันที่ 16 มกราคม ตัวเองยังไม่เล่นได้
ตามมาตรฐานที่เคยเป็น แต่ก็มีความสุขดีกับการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะไปลุ้นป้องกันแชมป์ ตอนนี้สภาพร่างกายดีมาก ๆ แต่ก็ต้องไปโชว์ ฟอร์มที่ดีในการแข่งขัน เนื่องจากว่ามีเป้าหมาย ที่จะคว้าแชมป์ให้ได้อีกที
“จากการฝึกรวมทั้งแข่งขันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้มั่นใจว่าหากทำได้ดีแบบนี้ ก็มีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ได้” นาดาลกล่าว
นักหวดสเปน กล่าวถึงการที่เป็น พ่อลูกอ่อน แล้วก็ยังต้องแข่งเทนนิส อาชีพ ว่า ต้องปรับตัวกับเรื่องใหม่ ๆ ในชีวิต ด้วยเหตุว่าเป็นครั้งแรกที่มีลูก ต้องใช้เวลา ในการทำให้ทุกอย่าง กลับมาคงที่เหมือนเดิม แต่คนรอบข้างก็ช่วยทำให้ก้าวผ่านไปได้ แบบไม่มีปัญหาเลย
นาดาล ยังคงเป็นนักกีฬาเทนนิส ที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลม ประเภทชายเดี่ยว ได้มากที่สุด ที่ 22 รายการ รองลงมาเป็นโนวัก โยโควิช มือ 5 ของโลกจากเซอร์เบีย ทำได้ 21 รายการ
เฟเดอเรอร์ หวังลงเล่นคู่ นาดาล ก่อนปิดฉากอาชีพในเลเวอร์คัพ และ ออสเตรเลียน โอเพ่น 2023
โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ผู้ครอบครองแชมป์แกรนด์สแลม 20 รายการ วัย 41 ปี ที่ประกาศเตรียมแขวนแร็กเก็ต หลังจบการแข่งขันเลเวอร์คัพ ที่จะแข่งขันกัน ได้เปิดเผยว่า ถ้าเกิด เขาได้จับคู่ลงแข่งกับ ราฟาเอล นาดาล ที่เป็นดังคู่แข่งขันในสนามแข่งขัน ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา จะเป็นสิ่งที่ดีมาก
เฟดเอ็กซ์ ออกมาเผยในงานแถลงข่าวครั้งแรกที่โอทู อารีน่า ว่า การแข่งขันประเภทคู่ในวันศุกร์นี้ จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่เขาก้าวลงสนามแข่งขัน ในฐานะนักตีเทนนิสอาชีพ ซึ่งเขาหวังว่าจะได้จับคู่กับนาดาล คู่ต่อสู้ตลอดกาล เพื่อเป็นสัญลักษณ์ ให้กับวงการเทนนิสว่า คู่ต่อสู้ ก็เป็นเพื่อนกันได้”
“สำหรับผมแล้วการลงสนามร่วม กับใครก็ตามถือเป็น สิ่งที่ดีเลิศมาก ด้วยเหตุว่าผมไม่ได้ ลงแข่งขัน ในสนามมาเป็นเวลานาน แล้วก็ผมทราบว่านั่น จะเป็นบรรยากาศที่ดี มากกับแฟน ๆ ในสนาม แต่แน่นอนว่าถ้าหากเป็นนาดาล ผมคิดว่าจะเป็นเรื่องแปลกที่พวกเราจะลงแข่งขันร่วมกันในแมตช์สุดท้ายของผม”
“ผมรู้สึกว่าจะเป็น สถานการณ์ที่แปลกใหม่ ถ้าเกิดมันเกิดขึ้นจริง ด้วยเหตุว่าพวกเราได้ต่อสู้กันมาตลอด รวมทั้งมีความเคารพ ให้แก่กันมาตลอด ทั้งยังครอบครัว แล้วก็ทีมโค้ช ผมมีความรู้สึกว่าเราเข้ากันได้มาตลอด ส่วนตัวเรา ตลอดเส้นทางอาชีพ
ที่ผ่านมาเราได้ต่างเจอกับผลการแข่งขัน ที่แตกต่างกัน แต่ก็ยังสามารถ รักษาความชมรมที่ดีได้ ผมรู้สึกว่านี่จะเป็นข้อความ ที่ดีที่เราจะบอก ไม่ใช่แค่สำหรับวงการ เทนนิส แต่ในกีฬาชนิดอื่น ๆ หรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ่งผมรู้สึกว่าจะเป็นเหตุผล ที่ทำให้แมตช์นี้ยิ่งใหญ่มาก”